สิ่งที่ไม่ควรทำกับพื้นผิวสแตนเลส เพื่อยืดอายุการใช้งานได้นาน
ข้อควรระวัง: สิ่งที่ไม่ควรทำกับพื้นผิวสแตนเลส
สแตนเลส เป็นวัสดุที่แข็งแรงและสวยงาม แต่พื้นผิวสแตนเลสนั้นต้องการการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อให้ยังคงความเงางามและยืดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น สแตนเลสเกรด 304 หรือเกรดอื่น ๆ หากใช้งานหรือดูแลผิดวิธี พื้นผิวของมันอาจเสื่อมสภาพและเกิดความเสียหายได้ง่าย
บทความนี้จะรวบรวมสิ่งที่ ไม่ควรทำกับพื้นผิวสแตนเลส พร้อมคำแนะนำในการดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพื่อช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและยืดอายุการใช้งานของวัสดุสแตนเลสในทุกงาน
1. อย่าเคลือบพื้นผิวสแตนเลสด้วยขี้ผึ้งหรือสารที่มีความมัน
แม้ว่าการเคลือบพื้นผิวด้วยสารบางอย่าง เช่น ขี้ผึ้ง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความมัน อาจดูเหมือนเป็นการป้องกันพื้นผิว แต่ในความจริง การเคลือบลักษณะนี้จะทำให้ ฝุ่นละออง และ คราบรอยเปื้อน ติดบนพื้นผิวสแตนเลสได้ง่ายกว่า และยากต่อการทำความสะอาด
ผลกระทบ
ทำให้พื้นผิวดูหมองคล้ำและไม่เงางาม
คราบฝุ่นและรอยเปื้อนอาจฝังแน่นจนต้องใช้แรงขัด ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้
วิธีที่ถูกต้อง
หากต้องการเคลือบพื้นผิวสแตนเลส ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสแตนเลส เช่น น้ำยาเคลือบสแตนเลสเกรด 304
2. อย่าใช้น้ำยาที่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้หรือไม่ เช่น น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงินหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
น้ำยาบางชนิด เช่น น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มักมีส่วนผสมของ สารเคมีที่รุนแรง ซึ่งอาจกัดกร่อนพื้นผิวสแตนเลสได้ แม้ว่าสแตนเลสจะมีความทนทานต่อสารเคมีบางชนิด แต่สารที่มีฤทธิ์รุนแรงอาจทำลายชั้นป้องกันบนพื้นผิว และทำให้เกิด รอยด่าง หรือ สนิม ได้
ผลกระทบ
ทำให้พื้นผิวเสียหายจนไม่สามารถกู้คืนได้
เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมในระยะยาว
วิธีที่ถูกต้อง
ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อสแตนเลส เช่น น้ำยาทำความสะอาดสำหรับ สแตนเลส 304 ที่ไม่มีสารกัดกร่อน
3. อย่าทำความสะอาดคราบฝังแน่นในขั้นตอนเดียว
เมื่อพื้นผิวสแตนเลสมี คราบฝังแน่น เช่น คราบน้ำมัน คราบสนิม หรือคราบไขมัน หากพยายามกำจัดคราบทั้งหมดในขั้นตอนเดียว อาจทำให้พื้นผิวเกิดรอยขีดข่วนหรือเสียหายได้
ผลกระทบ
การขัดคราบฝังแน่นด้วยแรงมากเกินไปอาจทำให้พื้นผิวเป็นรอย
พื้นผิวเสียความเงางามหรือเกิดคราบด่าง
วิธีที่ถูกต้อง
เริ่มทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและฟองน้ำเนื้อนุ่มก่อน
หากคราบยังไม่หลุด ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบเฉพาะจุด และทำความสะอาดเบา ๆ เป็นขั้นตอน
4. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคลอไรด์หรือเฮไลด์
สารคลอไรด์ (Chloride) และ เฮไลด์ (Halide) เช่น โบรไมน์ ไอโอดีน หรือฟลูออรีน มักพบในน้ำยาล้างบางชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สแตนเลสเกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting Corrosion)
ผลกระทบ
เกิดรูเล็ก ๆ บนพื้นผิวสแตนเลส ซึ่งขยายตัวได้เมื่อโดนความชื้น
พื้นผิวสูญเสียคุณสมบัติการต้านสนิม
วิธีที่ถูกต้อง
อ่านฉลากน้ำยาทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารคลอไรด์หรือเฮไลด์
5. ห้ามใช้น้ำยาที่มีกรดไฮโดรคลอริก (HCl)
กรดไฮโดรคลอริก หรือกรดเกลือ เป็นสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง หากใช้กับสแตนเลสจะทำให้เกิดรอยร้าวหรือการกัดกร่อนแบบรูเข็มได้
ผลกระทบ
เกิดการกัดกร่อนลึกในโครงสร้างสแตนเลส
ทำให้พื้นผิวสแตนเลสเสียหายอย่างถาวร
วิธีที่ถูกต้อง
ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัย เช่น น้ำยาทำความสะอาดสำหรับ สแตนเลสเกรด 304 หรือผสมน้ำสบู่อ่อนกับน้ำอุ่น
6. อย่าใช้อุปกรณ์โลหะหรือแปรงขัดที่แข็งเกินไป
การใช้อุปกรณ์ที่มีความแข็ง เช่น แปรงขัดโลหะ หรือฟองน้ำที่มีผิวหยาบ อาจสร้างรอยขีดข่วนบนพื้นผิวสแตนเลส
ผลกระทบ
ทำให้ความเงางามลดลง
รอยขีดข่วนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสนิม
วิธีที่ถูกต้อง
ใช้ฟองน้ำเนื้อนุ่มหรือผ้าขนนุ่มสำหรับการทำความสะอาด
7. อย่าใช้อุปกรณ์ที่เปียกชื้นวางบนสแตนเลสเป็นเวลานาน
การวางฟองน้ำเปียก ผ้าเปียก หรืออุปกรณ์เปียกน้ำไว้บนสแตนเลสอาจทำให้เกิด คราบน้ำ และอาจเกิดสนิมในระยะยาว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
ผลกระทบ
เกิดคราบน้ำหรือสนิมบริเวณที่เปียก
ทำความสะอาดคราบได้ยาก
วิธีที่ถูกต้อง
หลังใช้งาน ให้เช็ดพื้นผิวสแตนเลสให้แห้งทุกครั้ง
บทสรุป: การดูแลรักษาพื้นผิวสแตนเลสอย่างถูกวิธี
เพื่อให้สแตนเลสยังคงความสวยงามและทนต่อการใช้งานในระยะยาว คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหรือทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์รุนแรง การเคลือบพื้นผิวด้วยขี้ผึ้ง หรือการใช้แปรงที่แข็งเกินไป การดูแลที่ถูกวิธี เช่น การใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับ สแตนเลสเกรด 304 และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารคลอไรด์ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความเงางามของสแตนเลสให้คงทนไปอีกหลายปี
ARI Stainless
"สแตนเลสสี เกรด304 การันตีราคาถูกที่สุด ต้องอาริสแตนเลสเท่านั้น"
รับโปรโมชั่นดีๆสำหรับช่างตกแต่งภายในและผู้รับเหมา > ติดต่อเราเลยตอนนี้ รับฟรีคูปอง500บาท <